(+66) 02-693-9911

ข่าวสารและกิจกรรม

บทสัมภาษณ์คุณหมอทรงยศ

ถ้าจะพูดถึงคุณหมอรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความสามารถทางด้านศัลยแพทย์ เชื่อว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อ “หมอตั้ม” หรือ “นพ.ทรงยศ จันทจิตร์” รวมอยู่ด้วย “คุณหมอตั้ม” จบการศึกษาศัลยแพทย์ทั่วไปและศัลยแพทย์ตกแต่ง จากคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล เคยดำรงตำแหน่งศัลยแพทย์ตกแต่ง และหัวหน้าศูนย์ความงามโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ( องค์การมหาชน ) ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมและความงาม ดรีม คลินิก

เมื่อถามถึงที่มาของการเลือกเรียนแพทย์ “หมอตั้ม” บอกว่าจุดเริ่มต้นเลยเป็นเพราะตอนเด็ก ๆ ตนเองเป็นโรคภูมิแพ้ ทำให้ต้องไปตรวจกับคุณลุงหมอ ท่านเป็นศัลยแพทย์เด็ก และคุณป้า ซึ่งบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน ทำให้รู้สึกประทับใจในอุปนิสัยใจดี และบุคลิคภาพของท่านทั้งสอง จึงยึดถือเป็นแบบอย่างพอเพื่อโตขึ้นก็เริ่มสนใจในเรื่องของวงการแพทย์ โดยเฉพาะด้านศัลยแพทย์ เพราะมองว่าการเรียนศัลยแพทย์ตกแต่าง พอจบออกมาเราสามารถใช้ความรู้ความสามารถที่เราเรียนมาช่วยทำให้คนดูดีขึ้น

ซึ่งบางคนอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ, ความบกพร่องแต่กำเนิดดังนั้นศัลยแพทย์ตกแต่งก็ถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้บุคคลเหล่านั้นกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
กับอีกส่วนหนึ่งที่ทำเพื่อความงาม จากคนที่ปกติอยู่แล้วแต่อยากทำให้ตัวเองดูดีขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองถ้าพูดถึงทัศนคติในการทำงานและแนวทางการทำงาน หมอตั้มบอกว่า เมื่อตั้งใจแล้วก็จะต้องทำให้ดีที่สุดโดยเริ่มจากการทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและถนัดก่อน เพราะถ้าเราทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ก็จะทำให้เราทุ่มเทกับสิ่งนั้นได้เต็มที่ แล้วทำอย่างสุดความสามารถ เมื่อสำเร็จก็เป็นรางวัลที่ทำให้เราภูมิใจ แต่ถ้าล้มเหลวอย่างน้อยเราก็ยังภูมิใจว่าเราได้ทำอย่างเต็มที่และดีที่สุดแล้ว

ในส่วนของการรักษาคนไข้ ในฐานะแพทยืก็จะต้องรักษาให้ดีที่สุด แพทย์ควรจะต้องมีความกระตือรือร้นในการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อให้เท่าทันโรค และเพื่อเป็นแนวทางในการค้นหาวิทยาการรักษาแบบใหม่ๆ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นของคนไข้และผู้ร่วมงานจะต้องคำนึงถึงประโยชน์และเป็นที่่ปรึกษาให้กับคนไข้ได้

สำหรับบุคคลตัวอย่าง คือคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง เพราะถือว่าท่านเป็นพระในบ้าน คุณแม่เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ เป็นคนตรงไปตรงมาสอนลูกไม่ให้คดโกงใคร ส่วนคุณพ่อก็เป็นแบบอย่างในเรื่องของการทำงาน คุณพ่อเป็นคนที่ขยัน และเป็นกำลังใจให้ได้เรียนหมอ เพราะการเป็นแพทย์ต้องใช้ความมานะพยายามและอดทน คุณพ่อจะคอยบอกว่าจะทำอะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด และทำให้สุดความสามารถ

อย่างช่วงเวลาว่างนั้น “หมอตั้ม” ชอบที่จะหาความรู้ใหม่ๆ ในทุกๆ ด้าน ทั้งเรียนภาษาเพิ่ม ศึกษาอบรมเรื่องที่เกี่ยวกับการทำงาน
ที่สำคัญคือ ชอบเข้าร้านหนังสือหาตำราทางการแพทย์มาอ่านเพื่อจะได้รู้เรื่องราวใหม่ๆ ทางการแพทย์ ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือมีอะไรใหม่ๆ ที่เราสามารถนำมาใช้ในการรักษาคนไข้ได้บ้าง

สุดท้าย ” หมอตั้ม ” มองว่าสังคมปัจจุบันผู้คนให้ความสำคัญในการดูแลตัวเองมากขึ้น ตามค่านิยมเปลี่ยนแปลง
จึงอยากเตือนให้ระมัดระวังในเรื่องการทำศัลยกรรม เพราะการศัลยกรรมมีผลกับรูปร่างหน้าตาและสุขภาพของเราโดยตรง ควรเลือกแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงความสะอาดความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาล อย่าเห็นแก่ความสะดวกหรือราคาถูกเพียงอย่างเดียว แนะนำให้ ” สวยอย่างมีสติจึงจะเป็นความสวยที่ยั่งยืน “