รีวิวเปลี่ยนสาวหมวยเป็นสาวหวาน จากหนังตาตกเป็นตาเกาหลี

 

ชีวิตสาวหมวยเป็นอุปสรรคต่อหน้าตาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเกิดมาพร้อมตาสองชั้นหลบใน จนสืบเนื่องมาสู่วัยใกล้เกษียณ ฮ่าๆๆ ชั้นตาที่เล็กอยู่แล้ว มันกลับมีหนังเกินมาตกลงมาปิดทับมันอีก โอ้ว แม่เจ้า ปัญหาเมื่อต้องกรีดอายไลน์เนอร์ มันไม่อยู่บนตาชั้นบนน่ะสิ มันจะเปื้อนหางตาล่างตลอดเวลา เห้อ!!ช่างเป็นอุปสรรคต่อการแต่งหน้าสะนี่กระไร

 

ตลอดเวลาก็พยายามมองหาทางออกในการแก้ไข แต่การทำศัลยกรรมน่าจะเป็นเรื่องไกลตัวมาก ถึงแม้ว่าจะทำงานเกี่ยวกับเรื่องความสวยงามและผิวพรรณมานานหลาย 10ปี ก็ตาม

 

หลังจากหาข้อมูล สอบถาม ติดต่อ หลายหมอ หลายสถาบัน จนวันนี้ได้พบกับคำตอบ และทำให้เกิดความกล้าที่จะทำตา2ชั้นเพื่อแก้ปัญหาคาใจนี้ ด้วยเหตุผลว่า

 

1. เห็นผลงานคุณหมอ กับฝีมือที่เนียนมาก
2. ความใส่ใจในการดูแลคนไข้
3. ไม่ทำแล้วทิ้งเหมือนที่อื่นๆที่เคยทราบข้อมูล
4. กับความจริงที่ว่าคุณหมอที่ดังๆ ไม่ใช่จะมีฝีมือดีทั้งหมด แต่คุณหมอเก่งๆที่ยังไม่มีใครทราบก็ยังมีจริง ( คำโฆษณาชวนเชื่อกับการตลาดอาจไม่ตอบโจทย์ทุกท่านได้เสมอไป )

 

ดังนั้นจึงจบลงที่ คุณหมอทรงยศ จันทจิตร์ แห่งดรีมคลินิก ศัลยแพทย์ตกแต่งโดยตรงที่สนใจใส่ใจกับเทคนิคของเกาหลีว่าทำไมเขาถึงสามารถเปลี่ยนคนขี้เหร่ให้สวยได้แบบทันใจ และจากที่เกาหลีเคสที่นั่นเยอะมากๆ ดังนั้นเทคนิคต่างๆจึงได้ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างมากมายเพื่อตอบโจทย์คนไข้ที่มีความต้องการเปลี่ยนตัวเองสูงในประเทศเกาหลี และจากความใส่ใจในรายละเอียดเช่นนี้เอง ทำให้แพทย์ทรงยศ ได้เทคนิคชั้นสูงต่างๆ นำกลับมาใช้แก้ปัญหาให้กับคนไทยโดยไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศอีกแล้ว โดยยึดหลักให้สวยแบบธรรมชาติ ไม่ดูแปลกตาเกินไป ดูแล้วเนียนเหมือนดาราเกาหลี ซึ่งส่วนตัวแล้วก็เป็นคนไม่ชอบอะไรที่เว่อร์จนเกินไป ขอแต่พอดี ทำแต่พองาม แค่นั้นค่ะ

 

มาดูหน้าสวยหมวยก่อนทำนะคะ   สองชั้นหลบในค่ะ แถมตาไม่เท่ากันอีก เห้อ……..

ซูมกันชัดๆไปเลย ฮ่าๆๆ

 

 

 

 

และแล้วก็มาถึงวันทำ ก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก ชิลล์ๆ ก็แค่มีดบาดหนังตาจะอะไรกันมากมาย ฮ่าๆๆ

เข้าห้องผ่าตัดแล้วค่ะ สดชื่นสุดๆ ฮ่าๆๆ

แค่กินยานอนหลับก่อนทำ คุณหมอวาดเส้นที่หนังตา ลืมตาหลับตา เพื่อดูว่าทำแล้วจะได้ชั้นตาประมาณไหน จะต้องตัดหนังออกแค่ไหน ตาข้างแรกคุณหมอเริ่มมาจับๆ มือนิ่มมาก คิดว่ากำลังให้คุณหมอเขียนอายชาร์โดว์ให้สะอีก เหมือนคุณหมอกำลังระบายสีเปลือกตาให้ พร้อมนวดเปลือกตาเบาๆ ฮ่าๆๆ รู้สึกสบายมากๆ หลังจากนั้นตาข้างที่สอง ก็กรนเลยค่ะ เอิ่ม! เขินนะเนี่ยะ ฮ่าๆๆ

ดูเศษหนังและไขมันที่ต้องตัดทิ้งสิค่ะ…. ช่วงนี้กำลังหลับสบายมากๆ อิอิ ท่าทางจะมีเสียงกรนด้วย

และแล้วก็โดนปลุกค่ะ เสร็จแล้วค่ะ อุอิ สะดุ้งตื่นด้วยความเขิน ลงจากเตียงขอแชะภาพกับคุณหมอหน่อย แบบว่าตาปรือเพราะฤทธิ์ยานอนหลับนะคะ

แล้วก็ออกมานอนพักในห้องพักฟื้น วาง Clod Pack เพื่อลดบวมก่อนกลับบ้าน ด้วยความเป็นคน Active ไม่อยากนอน เดินไปมา กลับบ้านเลือดออกนิดหน่อยซึมๆ อิอิ ก็พยาบาลเขาเตือนแล้วดันไม่ฟัง สมน้ำหน้า ฮ่าๆ แต่ไม่สลดค่ะ กลับบ้านหลับต่อเพราะฤทธิ์พร้อมวาง Clod Pack ทั้งคืน อ๋ออีกเรื่องคิดว่าพอดีวันที่ทำมันเป็นวันนั้นของเดือน อาจทำให้เลือดออกเยอะและมีรอยซ้ำมากกว่าช่วงปกติ ก็เป็นด้ายยยยยย

หลังทำวันแรก ยังบวมอยู่ ไม่เจ็บอะไรเลย มาทำงานได้ตามปกติ มีปัญหาอย่างเดียวเลย คือแต่งตาไม่ได้ อิอิ ส่วนการดูแลแผเย็บบนหนังตาคือ การเช็ดด้วย Cotton Bud ชุบ NSS เช็ดให้สะอาด โดยเฉพาะวันแรกเช็ดให้คราบเลือดที่ติดกับเส้นไหมออกให้หมด และควรเช็ดวันละ 2 ครั้ง ตามด้วยการทาCogetine Ointment ที่คุณหมอให้มา และทายาแก้อักเสบตามแพทย์สั่งให้ครบถ้วนค่ะ ห้ามแผลโดนน้ำ ล้างหน้าแบบแห้งเอาละกัน อิอิ

 

วันที่ 4 หลังทำ ก็ยังมีรอยแดง คิดว่าน่าจะเป็นเพราะวันนั้นของเดือนแน่เลย ทำให้รอยแดงยังชัดอยู่ เหมือนเขียนอายชาโดว์เลอะเนอะ ว่าป่ะ อิอิ เริ่มเปลี่ยนสีเป็นเหลืองๆเขียวล่ะ แสดงว่ากำลังจะหายแล้วเย้!!!!

 

 

และแล้วก็ครบ 7 วัน ตัดไหมได้แล้ว เย้!!!

 

ลองดูรูปก่อนทำหลังทำ เปรียบเทียบกันสะหน่อย

เห็นความแตกต่างไหมค่ะ………….

 

หลังตัดไหม ก็จัดเลยค่า แต่งตาสะหน่อยหลังจากไม่ได้แต่งมา 7 วัน ฮ่าๆ แบบเบาๆค่ะ

ขอบคุณคุณหมอทรงยศ จันทจิตร์ ที่ทำให้ฝันของสาวหนังตาตก ได้เป็นความจริงสะที เพื่อนๆทักว่าหน้าหวานขึ้น ตาหวานขึ้น หน้าไม่ดุเหมือนก่อนแล้ว และที่สำคัญเขียนตาบนจะไม่ลงมาเปื้อนตาล่างอีกต่อไป แฮปปี้สุดค่ะ