Nabota ( นาโบตะ )

Nabota บริสุทธิ์สูงมากที่สุดถึง 98.7%  ,มีความปลอดภัยสูง

เห็นผลการรักษาเร็ว ชัดเจน และระยะเวลาคงอยู่นานกว่า

ไม่ดื้อยาจากการฉีดซ้ำหลายครั้งเหมือน Botulinum Toxin ที่มีความบริสุทธิ์ต่ำชนิดอื่น

และมีการใช้อย่างแพร่หลายทั้งในอเมริกา ยุโรป และ เอเชีย

ผ่านการตรวจรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ไทย และต่างประเทศ

Botulinum Toxin Type A คืออะไร
Botulinum Toxin เป็นโปรตีนสกัดจากเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในด้านความสวยความงาม ทั้งในเรื่องการลดริ้วรอยบนใบหน้า, การทำให้ใบหน้าเรียวงามหรือเล็กลง อีกทั้งยังนำไปใช้ในการทำให้ต้นขาและต้นแขนเรียวงามขึ้นด้วย โดย Toxin นี้คนทั่วไปอาจจะรู้จักกันในชื่อของ Nabota, Botulinum Toxin, Dysport, Neuronox, Butulax หรือ Hugel เป็นต้น โดยชื่อต่างๆ เหล่านี้เป็นชื่อการค้าของแต่ละบริษัทผู้ผลิต ซึ่ง Toxin ของแต่ละบริษัทจะมีความแตกต่างกันในด้านของระดับความบริสุทธิ์ซึ่งมีวีธีการผลิตที่แตกต่างกันทำให้ความบริสุทธิ์ที่ได้นั้นไม่เท่ากัน
NABOTA เป็น Botulinum Toxin ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ซึ่งถือว่าเป็น Toxin ที่มีความบริสุทธิ์สูงที่สุดในปัจจุบัน โดยใช้นวัตกรรมการผลิตที่มีความก้าวหน้าทันสมัยและดีที่สุดในปัจจุบัน ที่ชื่อว่า “Hi-pure Technology” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวในปัจจุบันที่ผลิต Toxin ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% จากการวัดด้วยเทคนิคล่าสุด SEC-HPLC-TSK G4000SWXL ซึ่งถือได้ว่าเป็น Toxin ที่บริสุทธิ์ ( Purity ) สูงที่สุดในปัจจุบันนี้

 

Purity of Toxin ( ความบริสุทธิ์ของ Toxin )
ความบริสุทธิ์ของ Toxin เป็นปัจจัยสำคัญของ Toxin ที่บ่งบอกได้ถึงคุณภาพของ Toxin ซึ่ง Toxin ที่มีความบริสุทธิ์ ที่ต่ำนั้นเกิดจากในตัว Toxin เองมีสารแปลกปลอมเจือจางปนอยู่ในเกณฑ์ที่สูงทำให้ใช้แล้วได้ผลช้า หรือบางครั้งอาจจะไม่ได้ผลเลยจนทำให้ผู้ใช้ต้องใช้ผลิตภัณฑ์นั้นซ้ำๆ หรือ เพิ่มปริมาณของ Toxin มากขึ้นถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น สาเหตุในกรณีนี้เนื่องจากร่างกายของคนเราเริ่มเกิดอาการดื้อต่อ Toxin โดยสมบูรณ์แบบแล้ว ไม่ว่าจะใช้ Toxin ปริมาณเท่าไหร่ผลลัพธ์ของการใช้ Toxin จะไม่เป็นตามที่ผู้ใช้คาดหวัง วิธีการสังเกตุด้วยตนเองว่าร่างกายของเราเริ่มเกิดอาการดื้อต่อ Toxin หรือไม่ สามารถทำได้โดยการสังเกตง่ายๆ ว่าหลังจากใช้ Toxin แล้วเราต้องใช้เวลาที่ยาวนานขึ้นหรือไม่ หรือใช้ Toxin ในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเท่าเดิม อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าร่างกายของเราเริ่มทำปฏิกิริยาต่อต้าน Toxin ที่ใช้ ดังนั้นผู้ใช้ควรจะหยุดการใช้ Toxin สักระยะเวลาหนึ่งก่อนแล้วจึงกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง

 

ตารางการเปรียบเทียบความบริสุทธิ์ของสองผลิตภัณฑ์ จากการวัดด้วยเทคนิค SEC-HPLC-TSK G4000SWXL

นาโบตะ ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีในการทำให้ Toxin มีความบริสุทธิ์มากกว่า Botulinum Toxin ยี่ห้ออื่น เพราะยิ่ง Toxin มีความบริสุทธิ์สูงก็จะทำให้ประสิทธิภาพของ Botulinum Toxin ดียิ่งขึ้น เห็นผลการรักษาได้รวดเร็ว ชัดเจน และคงอยู่ได้นานกว่า นอกจากนี้ประโยชน์จากความบริสุทธิ์สูง ที่สำคัญคือ ทำให้ไม่พบการดื้อยา ( การดื้อยาคือ การมาฉีดยาซ้ำๆแล้วไม่เห็นผลหรือ เห็นผลน้อยลงไปเรื่อยๆ ) ดังนั้น Nabota จึงให้ผลการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพ แม้ในรายที่เคยได้รับการฉีด Toxin ที่มีความบริสุทธิ์ต่ำแล้วเกิดการดื้อต่อสาร Toxin มาก่อน  

 

 ตัวอย่างผลการทดลองเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ Toxin ผลการตอบสนองในคนไข้ที่รับการฉีดลดริ้วรอยจากการขมวดคิ้วด้วย Botulinum Toxin 20 Unit เปรียบเทียบระหว่างสองผลิตภัณฑ์

 

พบว่า Nabota ให้ผลการตอบสนองต่อการรักษาริ้วรอยที่ดีกว่า Botulinum Toxin ชนิดอื่นและมีแนวโน้มคงอยู่ในระยะเวลานานที่นานกว่า

 

 

สรุปจุดเด่นของ NABOTA

• ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ให้ ผลความบริสุทธิ์ของสาร Botulinum Toxin Type A มากถึง 98.7% ซึ่งถือว่า มีความบริสุทธิ์สูงกว่า Toxin ชนิดอื่นๆ อย่างชัดเจน
• เห็นผลเร็วที่สุด และให้ประสิทธิภาพการลดริ้วรอยที่สูงกว่า Toxin ชนิดอื่นๆ
• ผลการรักษาอยู่ได้นานมากกว่า Toxin ชนิดอื่น
• ได้ผลชัดเจน ไม่พบการดื้อยาสามารถให้ผลดีแม้ในรายที่มีการดื้อ หรือไม่ได้ผลต่อสาร Botulinum Toxin ชนิดอื่นมาก่อน
• มีการใช้อย่างแพร่หลายทั้งในอเมริกา ยุโรป และ เอเชีย
• ผ่านการตรวจรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ไทย และต่างประเทศ

 

ออกฤทธิ์อย่างไร ? 

• ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารเคมีที่กล้ามเนื้อ หรือต่อมเหงื่อ แล้วแต่บริเวณที่ฉีด เช่น ที่กล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยจึงจางหายไป หรือ ถ้าเป็นกล้ามเนื้อบริเวณกรามหรือน่องจะลดการใช้งานลง ขนาดจึงเล็กลงตามมา หรือต่อมลดการหลั่งเหงื่อ ถ้าฉีดบริเวณต่อมเหงื่อ

แก้ไขปัญหารูปหน้าได้อย่างไร ? 

มีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและทำงานน้อยลงนิยมนำมาใช้เพื่อ

1. ลดริ้วรอยบริเวณใบหน้า เช่น ตีนกา รอยย่นหน้าผาก รอยย่นหัวคิ้ว ( คิ้วขมวด )
2. ปรับรูปหน้าให้เรียวมน ลดกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร ทำให้หน้าเหลี่ยมดูเรียวลง
3. ระงับเหงื่อใต้วงแขน ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
4. ปรับเปลี่ยนรูปคิ้ว เช่น ตรงเป็นธรรมชาติ, โค้งเป็นคันศร, เฉี่ยวเปรี้ยว
5. เสริมความกว้างให้ดวงตาดูโตขึ้น
6. ปรับรูปน่องให้ดูเรียวมน แก้ปัญหาน่องทู่
7. ปรับเปลี่ยนรูปคางให้ดูยาวขึ้น แก้ปัญหาใบหน้าสั้น
8. ยกกระชับใบหน้าให้ตึงขึ้นด้วยเทคนิค Micro-Botulinum Toxin Face lift
9. รอยย่นบริเวณลำคอ
10. ใช้ร่วมกับเลเซอร์เพื่อปรับสภาพผิว กระชับรูขุมขน
11. ลดความมันบริเวณ T-zone
12. อื่นๆ เช่น รอยย่นบริเวณดั้งจมูก จมูกบาน ร่องแก้มลึก ริ้วรอยริมฝีปาก รอยหยักบุ๋มบริเวณคาง

 

มีผลข้างเคียงอย่างไร ? 

• ไม่เคยมีรายงานการเกิดอาการแพ้อย่างเฉียบพลัน
• อาการที่พบได้ เช่น การตึงบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ อาการช้ำ หรือบวมเล็กน้อยเฉพาะที่ซึ่งหายไปเองภายใน 3 – 4 วัน
• ในกรณีที่ยากระจายไปในบริเวณที่ไม่ต้องการอาจเกิดภาวะหนังตาตก คิ้วตกได้ แต่ถ้าผู้ได้รับการฉีดปฏิบัติตัวถูกต้องตามคำแนะนำ มักจะไม่เกิดอาการเหล่านี้เลย อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้เป็นเพียงแค่ชั่วคราว และหายไปได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์

 

ไม่ควรใช้ในใครบ้าง ? 

ไม่ควรใช้ในหญิงให้นมบุตร หญิงตั้งครรภ์ หรือ ผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

 

การฉีด เจ็บหรือไม่ ?

การฉีด ทำโดยการใช้เข็มเบอร์เล็กที่สุดก่อนฉีดแพทย์จะทำการประคบเย็น ซึ่งได้ผลเทียบเท่ากับการใช้ยาชา หรือหากกลัวเจ็บมาก สามารถทายาชาก่อนฉีดก็สามารถช่วยได้ ดึงนั้นเมื่อแทงเข็มจะไม่รู้สึกเจ็บจะรู้สึกตึงๆ เมื่อยาเดินเข้าสู่ชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อ

 

หลังฉีด จะกลับมามีริ้วรอยมากกว่าเดิมหรือไม่ และต้องฉีดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ หรือไม่ ?

ผลจากการฉีดนาโบตะจะอยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน หลังจากนั้นริ้วรอยจะค่อย ๆ กลับมาทีละน้อยจนกระทั่งเท่ากับก่อนฉีด แต่ไม่มากกว่าเดิม เท่ากับนาโบตะช่วยหยุดเวลาของวัยในข่วงนี่ฉีดเอาไว้ เช่น ขณะนี้มีอายุ 40 ปี ฉีดนาโบตะต่อเรื่องเป็นเวลา 2 ปี เมื่อหยุดฉีดอายุ 42 ปี แต่ผิวหน้าเทียบเท่ากับอายุ 40 ปี

การฉีดต่อหรือไม่ขึ้นกับการตัดสินใจของคนไข้ แต่มีคำแนะนำว่าการฉีดต่อเนื่องจะทำให้ผลการรักษาดีขึ้นเรื่อยๆ และผลอยู่ได้นานขึ้นซึ่งเป็นผลดีกับตัวคนไข้เอง ในกรณีที่คนไข้ต้องการสภาพผิวที่ดูดีตลอดไป

 

แตกต่างจากการเสริมความงามวิธีอื่นอย่างไร 

โดยทั่วไป การรักษาริ้วรอยด้วยนาโบตะจะเหมาะสำหรับริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า จากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า โดยเฉพาะกับใบหน้าส่วนบน เช่น รอยตีนกา คิ้วขมวด รอยย่นที่หน้าผาก การปรับเปลี่ยนรูปคิ้ว การเปิดกว้างของดวงตา บริเวณเหล่านี้ถือได้ว่า Nabota เป็นวีธีที่ได้ผลดีที่สุด และแทบไม่มีผลข้างเคียงเลย แต่สำหรับใบหน้าครึ่งล่างอาจใช้ Nabota เป็นวิธีเสริมร่วมกับ Fillers อื่น เช่น Collagen หรือ Hyarulonic Acid

 

Nabota ใช้ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ ได้หรือไม่ 

นาโบตะสามารถใช้ร่วมกับเทคนิคเสริมความงามอื่น เช่น เลเซอร์ และ Filler อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังช่วยเสริมให้ได้ผลชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย เนื่องจาก Nabota ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และเคลื่อนไหวน้อยลง Collagen ที่ถูกเสริมสร้างขึ้นใหม่โดยเทคนิคอื่นๆ จะคงอยู่ในบริเวณชั้นผิวหนังได้ดีและไม่เคลื่อนไหว ผลการปรับสภาพผิวจึงชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้สภาพผิวโดยรวมดูดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อใช้ Nabota ร่วมกับ เลเซอร์ หรือ ฟิลเลอร์

 

คำแนะนำหลังฉีด Nabota

• ก่อนฉีด อาจทายาชาทิ้งไว้ ครึ่งชั่วโมง หรือ ใช้น้ำแข็งประคบจุดที่จะฉีดเพื่อให้เกิดอาการชาและลดโอกาสรอยช้ำ
• แนะนำให้แสดงสีหน้าตรงตำแหน่งที่ฉีดบ่อยๆ ในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่
• ไม่ควรนอนราบภายใน 2 ชั่วโมงหลังฉีด
• แนะนำให้หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า เป็นเวลา 2 – 3 สัปดาห์หลังฉีดเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
• ถ้ามีอาการปวดศีรษะหลังฉีด แนะนำให้ทานพาราเซตามอล โดยอาจจะมีอาการประมาณ 2 – 3 วันก็จะหายไปเอง