ข้อสังเกตก่อนตัดสินใจทำ VASER
เทคโนโลยีใหม่อาจไม่ใช่คำตอบ
ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยในการดูดไขมันออกมาในคลินิกและโรงพยาบาลจำนวนมาก หลายเครื่องยังไม่มีผลการศึกษาทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่าดีกว่าวิธีเก่า แม้ว่าจะมีลูกเล่นออกมาใหม่ดีในบางส่วน มีการศึกษาข้อดีมาบ้าง แต่ก็ยังพบข้อบกพร่องได้บ่อยเช่นกัน เพราะการทำศัลยกรรมไม่ใช่แฟชั่นเห็นว่าเครื่องมืออะไรออกมาใหม่ก็แห่ไปทำโดยไม่ศึกษาให้รอบคอบ เพราะร่างกายคนเราไม่ได้เปลี่ยนอะไหล่กันได้ง่ายเหมือนเครื่องยนต์ การทำศัลยกรรมแต่ละครั้งผลที่ตามมาก็อยู่ไปตลอดชีวิต หลายครั้งที่ตัดสินใจเลือกการรักษาที่ผิดพลาดในเวลาสั้นๆอาจส่งผลกระทบในการแก้ไขยาวนานเป็นปีๆ หรือแก้ซ้ำแล้วซ้ำอีก การเลือกทักษะ ประสบการณ์ และความรู้ความสามารถของศัลยแพทย์ตกแต่งจึงสำคัญมากกว่าการเลือกเครื่องมือรุ่นใหม่ล่าสุดตามคำโฆษณา เพราะปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการดูดไขมัน(มากกว่า 90%) อยู่ที่ศัลยแพทย์ ไม่ใช่เครื่องมือใดๆ
ความเชื่อผิดๆที่มักพบบ่อย จากคำโฆษณาดูดไขมัน
อย่าเพิ่งตัดสินใจดูดไขมัน ถ้าไม่ได้อ่านบทความนี้
1. ความเชื่อ vaser ไม่ใช่การผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น ไม่เจ็บ ทำครั้งเดียวจบไม่ต้องรักษาต่อเนื่อง
ความจริง
- vaser เป็น การ ผ่าตัดที่ต้องอาศัยศัลยแพทย์ที่ศึกษามาโดยตรง เพื่อให้ได้ผลผ่าตัดที่ดี ต้องมีการเจาะเพื่อสอดเครื่องมือเข้าไป
- หลังทำจะมีการเย็บแผลและต้องมีการรักษาต่อเนื่องโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อีกหลายครั้ง เนื่องจากแผลอาจมีปัญหา เช่น นูนเป็นคีรอยด์ มีรอยดำ หรือแผลแยกได้
- เทคนิคการดูดไขมันแบบเกาหลีสามารถซ่อนแผลเป็นให้อยู่ในบริเวณขอบขาซึ่งเหมาะกับคนเอเชียซึ่งแผลหายช้า แพทย์ต้องมีทักษะและเครื่องมือพิเศษในการดูดไขมันแบบนี้ ซึ่งมีเฉพาะที่ Dream Clinic
- เรื่องความเจ็บคลินิกส่วนมากไม่ให้ยาสลบมีหลายคนไปทำแล้วทนไม่ได้ต้องทำๆหยุดๆหรือดิ้นไปมา อาจทำไม่เสร็จ ดูดไขมันได้แหว่งๆไม่เรียบ แต่ที่ Dream Clinic จะให้ยาระงับความรู้สึกเพื่อให้คนไข้ไม่เจ็บ สามารถทำผ่าตัดได้ตลอดได้ผลเรียบดี
2. ความเชื่อ หลังทำ vaser สัดส่วนและน้ำหนัก จะลดลงทันทีไม่ต้องพักฟื้น
ความจริง
- vaser เป็นการลดสัดส่วนไม่ใช่การลดน้ำหนัก เมื่อดูดไขมันเสร็จจะยังมีอาการบวมอยู่บ้างอาจรอเป็นเดือน
- หลังทำ vaser ต้องพักฟื้นบ้างแต่ไม่นานสามารถทำงานได้แต่ให้งดกิจกรรมหนักๆ และงดการออกกำลังกายหนัก
3. ความเชื่อ การดูดไขมันเหมาะกับคนอ้วนน้ำหนักเยอะๆ เพราะเป็นการกำจัดไขมันโดยตรง
ความจริง vaser ไม่ ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการกำจัดไขมันเฉพาะส่วน คนอ้วนทั้งตัวน้ำหนักมากๆการดูดไขมันอาจไม่ใช่วิธีเดียวที่ต้องทำ การลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ อาจจำเป็นต้องทำควบคู่ไปด้วย ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจดูดไขมัน
4. ความเชื่อ ทำ vaser แล้วจี้ด้วย laser เพื่อให้เซลล์ไขมันตายจะได้ไม่กลับมาอ้วนอีก
ความจริง การทำ vaser และ laserLiposuction สามารถ ทำให้เซลล์ไขมันตายได้ทั้งคู่อยู่แล้ว แต่หลังจากดูดไขมันแล้วหากไม่ควบคุมน้ำหนัก ไม่ควบคุมอาหาร และไม่มีการออกกำลังกาย ก็มีโอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมเหมือนเดิม ปัจจุบันไม่มีการผ่าตัดดูดไขมันวิธีใดที่สามารถไม่ทำให้กลับมาอ้วนอีกได้ คำกล่าวอ้างข้างต้นถือเป็นการหลอกลวง
5. ความเชื่อ vaser ทำที่ไหนก็ได้เหมือนกันเพราะเป็นเครื่องเดียวกัน
ความจริง vaser เป็น การ ดูดไขมันที่ทำโดยแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทางเท่านั้น ต้องอธิบายก่อนว่าปัจจุบันแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งจะเรียนตามหลักสูตรถึง 6 ปี แต่ถ้าแพทย์ทั่วไปทำการอบรม 2-3 วันก็สามารถดูดไขมันได้ ซึ่งประสบการณ์จากการเรียน 6 ปี กับ 2-3 วัน จะมีทักษะในการดูแลคนไข้ที่ต่างกัน
ผลที่ได้จากการดูดไขมันจะเรียบเนียน เป็นหลุม มีแผลเป็นเยอะหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทักษะของแพทย์ถึง 90% ส่วนอีก 10% มาจากเครื่องมือที่ใช้ ถ้าเราดูแค่ราคาหรือการโฆษณาอย่างเดียวอาจได้แพทย์ที่ไม่ชำนาญให้กับตัวเอง
6. ความเชื่อ เครื่อง vaser มีหลายแบบผลิตจากหลายประเทศ ซึ่งได้ผลไม่แตกต่างกัน
ความจริง เครื่อง vaser ที่ ผลิตออกมาจากหลายประเทศมีความแตกต่างกัน โดยเครื่องที่ได้มาตราฐานนั้นจะนำเข้ามาจากอเมริกาและเป็นบริษัทที่ได้รับ การรับรองอย่างถูกต้อง
ระวังVASER ปลอม ! เพราะ ปัจจุบันมีบางคลินิกใช้เครื่อง LASER หรือ อัลตราซาวด์สลายไขมันเครื่องที่มาจากเกาหลีหรือจีน ซึ่งประสิทธิภาพไม่ดีเท่า ทำให้ผลการผ่าตัดไม่ดี
7. ความเชื่อ การดูดไขมันด้วยคลื่นเสียง RF (Body tite)เห็นผลดีกว่า vaser เพราะช่วยยกกระชับผิวมากกว่า
ความจริง
Body Tite เหมาะกับผิวหนังที่หน้าและคอ และบริเวณไขมันใต้ผิวหนังไม่หนามาก และช่วยทำให้กล้ามเนื้อชั้นตื้นและผิวหนังหดตัวตึงขึ้นมาได้บ้าง แต่สำหรับ ลำตัว ท้อง แขน ขา ไขมันที่มีความหนามาก การหดกระชับผิวหนังอาจไม่ชัดเจนทำแล้วไม่ได้ประโยชน์จาก คลื่นวิทยุที่ใส่เข้าไป
ข้อเสียของ Body tite คือ ราคาแพง และสลายไขมันในบริเวณที่เป็นพังผืดแน่นๆ(Fibrous Area) เช่นหน้าท้อง หรือหลัง ได้ไม่ดีเท่า vaser และการกระชับผิวก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้นต้องมาทำซ้ำเรื่อยๆ และการยกกระชับก็ไม่ได้ผลกับทุกคน เมื่อเทียบกับการผ่าตัดทำศัลยกรรมแล้วผลที่ได้ก็ไม่ถึง 20 เปอร์เซนต์ การทำ Body Titeจึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด เพราะการทำแบบราคาถูกก็มักจะได้พลังงานไม่เพียงพอและไม่ได้ผลยกกระชับใดๆ ขึ้นมามากกว่าการทำการดูดไขมันธรรมดา
ปกติการดูดไขมันด้วยเทคนิคที่ดี ร่วมกับเข้าโปรแกรมการดูแลหลังการรักษาที่เหมาะสมก็ทำให้ผิวหนังกระชับได้ อยู่แล้ว การกระชับผิวหลังดูดไขมันสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การดูดไขมันชั้นใต้ผิวหนัง หรือ superficial Liposuction ซึ่งไม่ต้องใช้เครื่อง Body Titeก็ให้ผลได้ดีเช่นกันแต่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูงของแพทย์ผู้ทำการดูดไขมัน
นอกจากนี้โปรแกรมการดูแลหลังการดูดไขมันที่ดี ก็มีส่วนทำให้ผลการรักษาดีผิวหนังไม่หย่อนคล้อย ซึ่งแม้จะลงทุนทำ Body Tite แต่แพทย์ไม่มีเทคนิคและเครื่องมือพิเศษของการดูดไขมัน หรือคลินิกไม่ได้มีโปรแกรมการดูแลหลังการผ่าตัดที่ดีพอก็เสียเงินเปล่า
8. ความเชื่อ ยิ่งดูดไขมันออกมาปริมาณมาก ยิ่งดี
ความจริง การดูดไขมันควรดูดแต่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป การดูดปริมาณเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับตัวคนไข้และบริเวณที่ดูด เพราะถ้าส่วนนั้นมีไขมันเยอะ ก็สามารถดูดได้เยอะ แต่ถ้าดูดไขมันออกมากเกินไปก็อาจเป็นหลุม ไม่เรียบ เป็นคลื่น หรือเป็นรอยเว้าแหว่ง ตามที่เห็นกันมากมายในสื่อ
เพราะความสวยของเรือนร่าง ไม่ใช่อยู่ที่การผอมติดกระดูกโดยไม่มีไขมันเลย แต่หากอยู่ที่การมีไขมันที่ถูกที่ ถูกบริเวณ และได้สัดส่วนเว้าโค้ง ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์และมองบริเวณที่ผ่าตัดอย่างเป็นสามมิติ และเป็นศิลปะ
9. ความเชื่อ อาจทำvaser ทำซ้ำบริเวณเดิมหรือใกล้เคียงเดิมบ่อยๆ ทีละนิด ทีละหน่อยก็ได้ผลไม่ต่างกัน (ทำแบบบริเวณเล็กๆไม่หมดทั้งแผง ถ้าไม่เห็นผลค่อยมาทำเพิ่มได้บ่อยๆตามต้องการ)
ความจริง การทำ vaser ควร เลือกเป็นส่วนหรือบริเวณแล้วทำให้เสร็จสมบูรณ์ ไปทั้งบริเวณเช่น ต้นขาด้านหน้าและด้านในควรทำพร้อมกัน ท้องบนเหนือสะดือและท้องล่างใต้สะดือก็ควรทำพร้อมกัน ไม่ควรแบ่งทำเพราะอาจจะทำให้ไม่เรียบเสมอกันและถ้ามาทำซ้ำจะมีพังผืดเกิดขึ้นและทำได้ยากชึ้น ได้ปริมาณไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น
ปกติการทำซ้ำต้องใช้เวลาพักตัว จะสามารถทำซ้ำได้ตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ปี ไม่ควรทำซ้ำตั้งแต่ในช่วงแรกๆเพราะยังไม่ยุบบวมเต็มที่
10. ความเชื่อ ทำ vaser มาแล้วไม่เรียบ เป็นหลุมแหว่ง แค่มาดูดซ้ำก็หายแล้ว
ความจริง การดูดไขมันแล้วไม่เรียบ มีเป็นหลุมหรือคลื่น ส่วนหนึ่งเกิดจากโครงสร้างใต้ผิวหนังที่เป็นพังผืด หรือจากทักษะของแพทย์ที่ขาดความชำนาญ การแก้ไขไม่ใช่แค่การดูดซ้ำแล้วจะเรียบเนียน มักต้องมีการฉีดไขมันเติมเต็มในส่วนขาดหายไปซึ่งขั้นตอนการแก้ไขจะยุ่งยากซับซ้อนกว่าการดูดไขมันมาก
11. ความเชื่อ vaser ช่วยลด เซลลูไลท์ (cellulite คือพังผืดในชั้นไขมันทำให้ผิวขรุขระเป็นเหมือนเปลือกส้ม)
ความจริง การทำ vaserเป็นการลดแต่ชั้นไขมัน ไม่สามารถช่วยลด พังผืดจากcellulite ได้มากนัก แต่เราจะใช้การรักษาอื่นหลังทำ VASER เช่นการนวดDrainน้ำเหลือง,นวดด้วยคลื่นวิทยุ RF ,ทำCarboxy , ฉีดยาสลายพังผืด หรือใช้หลายๆวิธีร่วมกัน จึงจะ ช่วยสลาย cellulite ได้ผลจริงๆ